10 เคล็ดลับ
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ลาดพร้าว
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ลาดพร้าว WellQuest Wellness
หลักการดูแลผู้สูงอายุทางด้านร่างกาย
พออายุมากขึ้นแน่นอนว่าร่างกายที่ใช้งานมาตลอดชีวิตย่อมมีการเสื่อมลงตามกาลเวลา การดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้นจึงต้องเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายของท่านให้แข็งแรงเสียก่อน การวางแผนเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพจะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ หากท่านมีสวัสดิการในการรักษาอยู่แล้วก็ดีไป แต่ถ้าไม่มีมองหาประกันชีวิตดี ๆ รองรับการรักษาไว้ดีกว่า
หลักการดูแลผู้สูงอายุ
ทางด้านจิตใจ
พออายุมากยิ่งขึ้นผู้สูงอายุบางคนก็จะมีความวิตกกังวลสูง ไม่ว่าจะเป็นการกลัวถูกทอดทิ้ง การกลัวเป็นภาระ ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความรู้สึกในด้านลบทั้งสิ้น วิธีดูแลผู้สูงอายุด้านจิตใจอาจจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ และความเข้าใจให้มาก หลายความวิตกกังวลอาจจะมา ๆ หาย ๆ เราต้องทำใจไว้ว่าไม่สามารถที่จะกำจัดความรู้สึกเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถทำให้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยที่สุดได้ การหากิจกรรม การพูดคุย จะเป็นการเติมเต็มให้ผู้สูงวัยมีความสุขมากยิ่งขึ้น
10 เคล็ดลับดูแลผู้สูงอายุ
การดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวนั้น อย่างที่บอกว่าเราต้องมีการดูแลท่านให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้จึงรวมเอา 10 เคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้เป็นการดูแลผู้สูงวัยใกล้ตัวได้เป็นอย่างดีเลย
1. อาหารการกินสำคัญที่สุด
อย่างที่บอกไป ร่างกายของผู้สูงอายุจะเสื่อมถอยตามกาลเวลา จึงต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเหมาะสมกับช่วงอายุ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารได้น้อยลง อวัยวะต่าง ๆ ทำงานลดน้อยลง โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย และจะมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดเท่าเดิม อาหารของผู้สูงอายุจึงควรเป็นอาหารที่ใช้การบดเคี้ยวน้อย อ่อนนุ่ม เช่นอาหารตุ๋นหรือต้ม
เกี่ยวกับรสชาติของอาหารไม่ควรจัดเมนูให้มีรสชาติจัดจ้านบ่อยนัก เลี่ยงอาหารที่มีความมัน ความหวาน ความเค็ม เพราะไม่มีต่อสุขภาพร่างกาย เสริมผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เพิ่มโปรตีน เนื้อ นม ไข่ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ต่อวันไม่ต่ำกว่า 1.5 ลิตร เพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายของผู้สูงวัยสมดุลมากขึ้น
2. อย่าให้น้ำหนักมากเกินไป
นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว การควบคุมน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง ไม่ควรให้ผู้สูงอายุมีน้ำหนักมาก ด้วยสภาวะร่างกายที่เสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก หากปล่อยให้น้ำหนักมากเกินไปจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และน้ำหนักเกินมาตรฐานยังเป็นบ่อเกิดโรคแทรกซ้อน อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน ได้ง่ายอีกด้วย
3. ออกกำลังกายวันละนิดจิตแจ่มใส
การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุนั้น ก็เป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้กำลังมาก ที่เราเห็นกันมากจะเป็นเกี่ยวกับการเดินออกกำลังกาย การรำมวยไทเก็ก การแกว่งแขน เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสาย คลายกล้ามเนื้อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นได้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย
4. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
ไม่ว่าช่วงอายุไหน สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อการดำรงชีวิตทั้งนั้น เช่นเดียวกับการดูแลผู้สูงอายุ การจัดที่พักสำหรับผู้สูงอายุจำเป็นมากที่ต้องจัดให้มีอากาศถ่ายเท ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกจากบ้านดังนั้นสภาพแวดล้อมในบ้านดีก็ช่วยให้จิตใจของผู้สูงอายุผ่อนคลายได้มากกว่าพื้นที่อับชื้น อาจมีการปลูกต้นไม้ไว้ช่วยฟอกอากาศ นอกจากจะช่วยเรื่องนี้แล้ว ต้นไม้ยังสามารถกลายเป็นงานอดิเรกให้ท่านได้อีกด้วย
สภาพแวดล้อมที่พูดถึงไม่เพียงแต่การจัดที่พักอาศัยเท่านั้น การพาผู้สูงอายุไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือถ้าไม่สะดวกเดินทางไปไหนไกลก็สามารถพาปอดของผู้สูงอายุไปยังสวนสาธารณะใกล้ ๆ ได้
5. หากิจกรรมพิเศษทำในบางเวลา
เทคนิคของการดูแลผู้สูงอายุข้อต่อมาคือการคิดหากิจกรรมยามว่างทำร่วมกัน การทำกิจกรรมนั้นจะช่วยให้ความกังวลของผู้สูงอายุผ่อนคลายลง กิจกรรมเหล่านั้นอาจจะต้องดูจากความชอบของท่านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ร้องเพลง หรือการรังสรรค์ทุกวันสุดสัปดาห์ที่รวมเอาครอบครัวมารับประทานอาหารร่วมกัน
6. ระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ
เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 เลย ด้วยร่างกายของผู้สูงอายุ มีการเสื่อมถอยลงไปมาก หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้ม ตกบันได ตกเก้าอี้ หรืออุบัติเหตุด้านอื่น ๆ เมื่อมีการบาดเจ็บการฟื้นตัวจะล่าช้าและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมาก บางอาการไม่สามารถทำให้ร่างกายกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนั้น ย่อมดีกว่าแนวทางในการรักษา สถานที่อยู่อาศัยควรมีความเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดล้ม ดูแลความเรียบร้อยของสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านจัดให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้าน
7. ดูแลเรื่องการใช้ยารักษาโรค หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว จัดสรรให้กินตรงตามเวลา ไม่ละเลยการรับประทานยาหรือทำการหยุดยาด้วยตัวเอง โรคบางโรคของผู้สูงอายุต้องรับประทานยาต่อเนื่อง หากมีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาต้องนำยาที่กินเป็นประจำติดไปทุกครั้งเมื่อไปพบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพราะยาบางตัวไม่สามารถกินร่วมกันได้ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หากมีอาการป่วยต้องรีบพาไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป
8. ควรให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ได้รับผิดชอบอะไรมากเท่าเมื่อก่อน ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองลดลง หากลูกหลานยิ่งละเลยอาจจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกน้อยใจ ซึมเศร้า เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยต่าง ๆ ดังนั้นหากมีเรื่องที่จะต้องตัดสินใจควรสอบถามความคิดเห็นของท่านด้วย ยกตัวอย่างเช่น จะออกทริปครอบครัว ท่านอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม อยากต่อเติมบ้านควรทำอย่างไรดี ให้ท่านได้ออกความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
9. อุปกรณ์ช่วยดูแลผู้สูงอายุเหมาะสม
เทคโนโลยีปัจจุบันสร้างอุปกรณ์ และเครื่องมือมากมายที่จะช่วยในการดูแลผู้สูงอายุให้สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเดิน การนอน การนั่ง การขับถ่ายมีตัวช่วยที่คุณสามารถเลือกใช้ได้มากมาย แต่การเลือกตัวช่วยเหล่านั้นต้องคำนึงด้วยว่าเหมาะสมกับท่าน สะดวกกับท่านมากน้อยแค่ไหนด้วย
10. ตรวจสุขภาพประจำปีทั้งกายทั้งใจ
การตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่ต้องตรวจสุขภาพจิตใจของท่านด้วย ว่าจะขนาดนั้นท่านมีเรื่องกังวลใจ สุข ทุกข์เรื่องไหนบ้าง ตรวจร่างกายตามขั้นตอนของแพทย์เพื่อหาความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ สังเกตความผิดปกติของร่างกายท่าน หากพบเจอโรคจะได้รักษาได้ทันเวลา
ผู้สูงอายุนั้นเหมือนเป็นวัยที่กลับไปอ่อนไหวอีกครั้ง ต้องการการดูแลเอาใจใส่ ความรักความอบอุ่น ทั้งยังต้องดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายให้มากขึ้นด้วย ลูกหลานควรให้ความใส่ใจ เห็นคุณค่าของท่านเสมอ การดูแลดีทางใจจะส่งผลให้ร่างกายของท่านสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เป็นที่รักของคุณได้อีกนานแสนนาน