ตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ
รู้ทันป้องกัน
"โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ"
“โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ-ตัน” เป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองจาก “โรคมะเร็ง” โดยในแต่ละปี อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดของคนไทยมีมากกว่า 37,000 ราย หรือเสียชีวิตเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน เลยทีเดียว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญในการตรวจคัดกรอง เพราะการพบความเสี่ยงหรือรอยโรคในระยะเริ่มต้น จะช่วยให้เราป้องกันการเกิดโรค หรือป้องกันการลุกลาม และรักษาได้อย่างทันท่วงที
โรคหลอดเลือดหัวใจคืออะไร?
โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ-ตัน เกิดจากการสะสมของไขมันและแคลเซียมในผนังหลอดเลือด เมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ หลอดเลือดจะมีความเปราะ บาง แข็ง ไม่ยืดหยุ่น ที่สำคัญคือหลอดเลือดจะเกิดการตีบแคบลง ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หัวใจจึงได้รับออกซิเจนน้อยลง ต่อเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งหลายรายไม่เคยมีอาการเตือน จึงไม่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในภาวะเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ความดันโลหิตสูง
- ปริมาณไขมันในหลอดเลือด เช่น คอเลสเตอรอล (Cholesterol) และ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) สูง ไขมันเลว (LDL) สูง แต่ไขมันดี (HDL) ต่ำ
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง
- อายุ โดยผู้ชายอายุ 45 ปี และผู้หญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- ขาดการออกกำลังกาย มีภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- เจ็บแน่นหน้าอก หรือปวดเค้นที่หน้าอกด้านซ้ายบริเวณหัวใจ อาจร้าวไปที่แขน ไหล่ซ้าย ข้อศอก ขากรรไกรร่วมด้วย
- เหนื่อยง่ายขณะออกแรง
- หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือโรคหัวใจเรื้อรัง
- ความดันโลหิตต่ำเฉียบพลัน
- หมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น
การตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ หรือ CT Calcium Scoring คืออะไร?
เราสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ-ตัน ด้วยการตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ (CT CALCIUM SCORE) ซึ่งก็คือ การใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วและความละเอียดสูง (CT SCAN) มาตรวจหาปริมาณแคลเซียมที่เกาะภายในผนังหลอดเลือดแดง และดูคุณภาพการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งค่าที่ได้จะช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดห้วใจตีบได้ โดยพิจารณาจากประวัติสุขภาพ และค่า calcium score ดังนี้
- หาก calcium score = 0-400 หมายถึง มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในระดับต่ำถึงปานกลาง
- หาก calcium score > 400 หมายถึง มีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ภายในระยะเวลา 2-5 ปี แม้ขณะนี้จะยังไม่มีอาการใดๆ ก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทำการแนะนำให้ทำการปรับพฤติกรรม นัดหมายเพื่อตรวจติดตาม หรือทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วแต่กรณี
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ (CT CALCIUM SCORE)
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน
- ผู้ที่มีภาวะเครียด
- ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเข้ารับการ “ตรวจแคลเซียม” หรือปริมาณ “หินปูนในหลอดเลือดหัวใจ” บุคคลทั่วไปสามารถเข้ารับการตรวจได้ทันที แต่สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม