โดยปกติแล้วเนื้องอกในสมอง สามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกับเนื้องอกสมองได้ เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเนื้องอก มะเร็ง การได้รับสารเคมีบางชนิด และการฉายรังสี เป็นต้น
- เนื้องอกของสมอง ซึ่งแบ่งออกเป็นเนื้องอกชนิดดี และเนื้องอกชนิดไม่ดี หรือมะเร็งสมองนั่นเอง
- เนื้องอกที่กระจายมาจากอวัยวะอื่น เช่น ปอด เต้านม อย่างที่ทราบกันดีว่า ในกรณีนี้คือเป็นลักษณะของการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ในระยะท้ายๆ แล้ว
อาการที่พบได้ของผู้ป่วยเนื้องอกสมอง ได้แก่ อาการปวดศีรษะ ซึ่งแน่นอนว่าปวดศีรษะนั้นมีหลายแบบ แต่อาการปวดที่จะบอกว่าไม่ใช่แค่ปวดศีรษะแบบทั่วๆ ไป เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือปวดศีรษะร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการชาบริเวณแขน ขา มีอาการอ่อนแรง ชัก ถ้ากรณีที่เป็นไม่มาก ไม่ได้ตรวจเพิ่มอย่างละเอียด อีกทั้งไม่ได้ตรวจรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท จะทำให้ไม่สามารถพบความผิดปกติ ซึ่งจะได้รับการรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดด้วยการรับประทานยา
- ปวดศีรษะบ่อยๆ และปวดศีรษะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ รับประทานยาแล้วอาการปวดไม่ลดลง
- แขน ขา ชาหรืออ่อนแรง
- พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว
- มีอาการชัก
ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยจะส่งตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยการตรวจสมอง โดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อดูเนื้องอกและรายละเอียดโดยรอบอย่างชัดเจน เมื่อทราบรายละเอียดต่างๆ จะมีส่วนช่วยให้แพทย์สามารถทราบในเบื้องต้นว่าเนื้องอกเป็นชนิดใด เพื่อเตรียมวางแผนการรักษา แต่ผลการวินิจฉัยที่ชัดเจนต้องพิจารณาจากการตัดชิ้นเนื้อ และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การผ่าตัดเนื้องอก มีวัตถุประสงค์หลักมุ่งเน้นตัดเนื้องอกออกให้ได้มากที่สุดและไม่เกิดผลแทรกซ้อน อีกทั้งยังช่วยลดอาการสมองบวม ลดอาการชัก ปัจจุบันการผ่าตัดจะเน้นผ่าตัดแผลขนาดไม่ใหญ่ โดยนำเครื่องนำวิถี (Navigation) มาใช้ ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น ทราบพิกัดของการผ่าตัดตลอดเวลา และช่วยให้เกิดการบาดเจ็บกับสมองน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีการใช้กล้องผ่าตัดกำลังขยายสูง (Microscope) เพื่อช่วยให้ประสาทศัลยแพทย์สามารถมองเห็นจุดเล็กๆ ในสมองส่วนที่อยู่ลึก หรือในตำแหน่งที่มีอันตรายได้ดีขึ้น ทำให้ผ่าตัดได้ปลอดภัยมากขึ้น
- การฉายรังสีรักษา
- การให้ยาเคมีบำบัด
ในการรักษาคนไข้แต่ละราย แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษา และเลือกใช้อุปกรณ์การผ่าตัดตามความเหมาะสม ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะของเนื้องอก ตำแหน่ง และขนาด ซึ่งบางรายอาจใช้การรักษาวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือบางรายอาจใช้ร่วมกันทั้ง 3 วิธี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
สำหรับในปัจจุบันสามารถกล่าวได้ว่า การผ่าตัดมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ด้วยความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ของประสาทศัลยแพทย์และวิทยาการด้านการตรวจรักษาที่ก้าวล้ำทำให้ผลของการผ่าตัดที่ได้รับแตกต่างจากในอดีต ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดใช้วิธีเปิดแผลไม่ใหญ่ ผลแทรกซ้อนจึงน้อย การบาดเจ็บของสมองลดลง การเสียเลือดก็น้อย พักฟื้นระยะสั้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ใช้ผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ เข้าถึงจุดที่สำคัญและเป็นอันตรายได้เป็นอย่างดี
คำตอบ คือ ได้ ถ้าตรวจพบเนื้องอกชนิดดี แต่หากปล่อยไว้ไม่รับการรักษาอย่างถูกวิธี นานวันจากเนื้องอกชนิดดีย่อมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็งสมองได้เช่นเดียวกัน ความสำคัญในจุดนี้จึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ทุกคนจะบอกคนไข้เสมอว่า เมื่อใดก็ตามที่ตรวจพบเนื้องอกสมองต้องรีบทำการรักษาทันที เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณเอง