Every day

7:00 - 18:00

Call us

0970405069 , 0956416356

10 ข้อแนะนำจากแพทย์ ในการเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าว

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าว

1.กลิ่น

หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมยกเรื่องกลิ่นมาพูดเป็นเรื่องแรก แต่ผมจากประสบการณ์ทำงานมาหลายปี ผมพบว่า “กลิ่น” เป็นตัวชี้วัดที่ดีมาก ในการบอกคุณภาพของการดูแล เพราะ กลิ่นทีจัดการยากที่สุดคือกลิ่นจาก อุจจาระ และปัสสาวะ เนื่องจากเครื่องฟอกอาการ หรือ แอร์ก็ไม่สามารถจัดการกลิ่นนี้ได้

 การจะไม่มีกลิ่นอุจจาระ และปัสสาวะ มีเพียงต้องมีการทำความสะอาดตัวคนไข้ต่อเนื่อง ไม่ทิ้งให้ค้างไว้ และ การทำความสะอาดพื้นผิวสถานที่ อย่างสม่ำเสมอดังนั้น หากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมีกลิ่นสะอาดสดชื่น เมื่อเดินเข้าไปแล้วน่าจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีเลยทีเดียว

2.กิจกรรม

ผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าวแล้ว สิ่งที่จะทำให้แต่ละวันมีสีสัน คือกิจกรรม ไม่เช่นนั้นทุกวันที่ผ่านไปเหมือนเดิม เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและเหี่ยวเฉาอยุ่ไม่เบา ดังนั้นเราต้องสอบถามว่า ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้น มีห้องทำกิจกรรมหรือไม่ แล้วมีกิจกรรมอะไรบ้างในแต่ละวัน หรือ ควรสอบถามว่า ปกติ คนไข้หากช่วยเหลือตัวเองได้น้อยแล้ว มีคนคอยพาลงจากเตียง มายืน หรือ นั่งรถเข็นบ้างหรือไม่ เพราะการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสำคัญ บางศูนย์อาจจะให้คนไข้อยู่บนเตียงทั้งวันทั้งคืน ซึ่งการที่คนไข้ได้เคลื่อนไหว จะทำให้กล้ามเนื้อลีบลงได้เร็วกว่าปกติ (ปกติกล้ามเนื้อผู้สูงอายุที่ไม่ออกกำลังกาย อาจจะลีบลง 5% ทุกปี แต่หากไม่มีการเคลื่อนไหวเลย อาจเป็น 5% ทุกอาทิตย์ หรือเดือน) เราอาจเคยเห็นเคสที่ผู้สูงอายุที่ป่วยเข้า ICU หรือ รพ แล้วไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติจากภาวะกล้ามเนื้อลีบอยู่บ้าง

3.สถานที่ตั้ง

สถานที่ตั้งนั้นไกลจากบ้านเรามากหรือไม่ เราจะมาเยี่ยมได้บ่อยหรือไม่ จากการสำรวจที่ผมทำกับผู้รับบริการ ตัวเลขที่พบว่าเหมาะสมคือ ไม่เกิน 30 นาที ในการเดินทางจากบ้าน ส่วนระยะทางก็มักจะอยู่ที่ 25-30 Km (แต่ทั้งนี้ก็ขี้นอยู่กับวิธีเดินทาง เพราะถ้ามีทางด่วนใกล้ๆ อาจมีระยะที่ไกลกว่านั้นได้ถ้ารถไม่ติด)

4.บุคคลากร

ทีมงานศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าวนั้นๆ มีแพทย์เป็นที่ปรึกษาหรือไม่ มีแพทย์มาตรวจเยี่ยมหรือเปล่า การมีแพทย์เป็นที่ปรึกษาก็จะช่วยลดปัญหาเล็กๆน้อยๆ เช่นการปรับยา การปรึกษาเมื่อคนไข้มีอาการเปลี่ยนแปลง อาจช่วยลดการส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นได้ พยาบาล หรือ ผู้ช่วยพยาบาลมีวุฒิถูกต้องหรือไม่ เพราะ มีบางศูนย์ที่อาจไม่ได้ใช้บุคคลากรทางแพทย์ หรือ เป็นคนต่างด้าว ซึ่งในกรณีหลัง การสื่อสารก็อาจทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนทางการรักษาได้เช่นกัน

5.การจัดการข้อมูล

ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้นมีการเก็บข้อมูลคนไข้แบบใด เป็นแบบดิจิตอล หรือ กระดาษ ซึ่งเราสามารถขอดูฟอร์มการเก็บข้อมูล หรือ ใบส่งตัวได้ เพราะเวลาส่งตัวนั้น ข้อมูลของคนไข้จะมีประโยชน์อย่างมาก สำหรับแพทย์เจ้าของไข้ หรือ แพทย์ที่รับการรักษาต่อ การลงข้อมูล การบันทึกเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับผมเองคิดว่า Data is life ดังนั้นหากการเก็บข้อมูลมีระบบที่ดี การดูแลรักษาก็มักจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า

6.ราคา

เราต้องดูให้ดีว่าราคา ที่ศูนย์ผู้สูงอายุคิดนั้นมีอะไรรวมอยู่บ้าง เพราะบางครั้งราคาแรกเข้า อาจไม่ได้รวมอีกหลายอย่าง เช่น ค่าเยี่ยมแพทย์ ค่าอาหาร ค่ากิจกรรม ค่ากายภาพ ค่าอุปกรณ์ พอเข้าพักจริงๆแล้วอาจจะสูงกว่าที่ได้รับแจ้งครั้งแรก ดังนั้นจึงควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเข้าพัก

7.รีวิว

ปัจจุบันนี้ เราสามารถดูรีวิวใน Google review, Web board หรือ Social network ก็อาจช่วยเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่าศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้นๆ มีเสียงตอบรับเช่นไร แต่ถ้าดีที่สุดก็คงต้องเป็นคนที่เรารู้จัก

 

8.ผู้จัดการศูนย์ หรือ ผู้ประสานงาน

โดยปกติศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะมีผู้จัดการ หรือผู้ประสานงานหลัก ซึ่งหลังจากที่คุณพ่อ คุณแม่เราได้เข้าไปพักอาศัยแล้ว เขาจะเป็นคนที่เราติดต่อประสานงานบ่อยที่สุด ดังนั้น เราต้องดูว่าเขาให้บริการดีไหม พูดจารู้เรื่องหรือไม่

 

9.ห้องน้ำ ผู้รับบริการเป็นอย่างไร

ทิปก่อนข้อสุดท้าย ผมแนะนำให้ลองขอเข้าห้องน้ำดู เพราะห้องน้ำที่ดี น่าจะบอกถึงการใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยของศูนย์ได้เป็นอย่างดีครับ หากห้องน้ำสำหรับแขกที่ให้บริการไม่ดี มีโอกาสสูงว่าภายในอาจจะแย่กว่าที่เราได้สัมผัส

 

10.ถามตัวเราเอง

ผมมักบอก ทุกคนว่า หลักเกณฑ์ที่ใช้ได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือ ให้ถามตัวเองว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะอยู่ไหม?” เพราะส่วนใหญ่เรามักเลือกให้คนไข้ แต่ถ้าลองคิดอีกมุมว่า เราต้องมานอนอยู่ในที่แห่งนี้ เราจะอยู่หรือเปล่า หากคำตอบของเราคือ ถ้าเป็นตัวเราเองก็ไม่อยากอยู่ ดังนั้นคนไข้เองก็มีโอกาสไม่อยากอยู่เช่นกัน

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*
*