Every day

7:00 - 18:00

Call us

0970405069 , 0956416356

ออกกำลังกายในผู้สูงอายุที่มีโรคเบาหวาน

การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ มีข้อควรระวังมากกว่าในวัยอื่นๆ เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้ออ่อนแอกว่าวัยอื่น การทรงตัวที่อาจทำได้ไม่ดีเท่ากับวัยอื่น ที่สำคัญผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย เช่น โรคความดันโลหิต ที่อาจเพื่มสูงขึ้นเมื่อออกกำลังกาย จึงต้องควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติก่อน นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย

  • ทำให้ร่างกายใช้กลูโคสได้ดีขึ้น มีปฏิกิริยาต่ออินซูลินดีขึ้น เป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดส่งผลให้ลดขนาดอินซูลินที่จะใช้ หรือในบางรายที่ระดับน้ำตาลไม่สูงสามารถงดการให้อิซูลินได้
  • ลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดแดงแข็ง เพราะช่วยลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด
  • ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานในผู้ป่วยโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และผู้มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน
  • คลายความเครียด และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

ข้อควรระวังและข้อควรปฎิบัติในการออกกำลังกาย

  • ปรึกษาแพทย์ และได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างละเอียด
  • ผู้ป่วยต้องมีป้ายแสดงตัวว่าเป็นเบาหวานติดตัวไว้เสมอ สำหรับการออกกำลังกายนอกบ้าน
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย
  • งดการออกกำลังกายถ้าระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่าหรือเท่ากับ 250 mg/dl ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 และไม่เกิน 300 mg/dL ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
  • ถ้าระดับน้ำตาลต่ำกว่า 90 mg/dl ให้รับประทานอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง
  • งดการออกกำลังกายในช่วงที่อินซูลินออกฤทธิ์สูงสุด โดยปรึกษาทีมผู้รักษา
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอินซูลินอย่างน้อง 1 ชั่วโมง เนื่องจากอิซูลินจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดเร็วเกินไป
  • ตรวจน้ำตาลก่อน และหลังออกกำลังกาย
  • ตรวจดูว่ามีบาดแผลที่เท้า หรือการอักเสบอื่นๆ หรือไม่
  • เลือกรองเท้าให้เหมาะสม และใส่ถุงเท้าทุกครั้ง
  • ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดผลร่วมกับการปรับขนาดยาอินซูลิน และอาหารอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ควรออกกำลังกายในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ
  • หลีกเลี่ยงท่าออกกำลังกายที่มีการเกร็งหรือเบ่งมากเกินไป ในบางรายอาจทำให้ความดันโลหิตสูงได้โดยเฉพาะท่าที่ต้องกลั้นหายใจ

ขั้นตอนในการออกกำลังกาย

  1. มีการ Warm up Cool down อย่างละ 5 นาที โดยออกกำลังกายวันละ 20 – 40 นาที
  • Warm up อบอุ่นร่างกาย : ออกกำลังกายเป็นจังหวะช้าๆเพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บของเอ็นและกล้ามเนื้อ
  • Cool down ต้องมีการผ่อนคลาย : หากหยุดออกกำลังกายทันทีเลือดจะไหลกลับมาสู่หัวใจอย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดมากเกินไป
  • ออกกำลังกายอย่างต่ำ 30 นาที เพื่อร่างกายจะได้นำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์

2. เริ่มต้นออกกำลังกายแบบเบาๆก่อน และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อแข็งแรง
3. รู้หลักกายออกกำลังกายที่ถูกวิธี

วิธีการออกกำลังกาย

การเดิน : เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ มีข้อปฏิบัติคือต้องเดินเร็วให้เกิดการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ถ้าเดินเร็วมากไม่ได้ต้องเพิ่มเวลาในการเดิน และในขณะที่เดินมีการแกว่งแขนร่วมด้วย เดินในที่อากาศถ่ายเท โดยแนะนำเดินในช่วงเวลาเช้า มีเพื่อนหรือกลุ่มในการเดิน
การวิ่งช้าๆ : เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่สุขภาพยังแข็งแรงดีอยู่
การรำมวยจีน : เป็นการเคลื่อนไหวช้าๆ ใช้เวลา และสมาธิในการทำ แต่ควรมีครูฝึกที่ดี มีกลุ่มที่เหมาะสม และต้องเวลาปฏิบัติอย่างจริงจัง
โยคะ : เป็นการออกกำลังกายร่วมกับการฝึกการหายใจให้เข้าจังหวะ

การออกกำลังกายมีผลดีต่อการรักษาเบาหวานใช้เป็น 1 ใน 3ส่วนของการบำบัดรักษา โดยช่วยกระตุ้นอินซูลินให้ทำงานดีขึ้น และได้ผลดีกับผู้ป่วยเบาหวานที่จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังทั้งหลอดเลือดขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เน้นการออกกำลังกายเป็นจังหวะ และสม่ำเสมอวันละ 30 นาที

ข้อควรระวังที่สำคัญ

การบาดเจ็บที่เท้าและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้น ต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมมีการประเมินทั้งร่างกาย ที่อยู่ สภาพจิตใจ และความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองด้วย

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*
*