Every day

7:00 - 18:00

Call us

0970405069 , 0956416356

5 โรคตาผู้สูงอายุ ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม

เมื่ออายุมากขึ้นอวัยวะต่างๆ ในร่างกายที่เราใช้งานมาหลายสิบปีก็ย่อมเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติ และ “ดวงตา” คือหนึ่งในอวัยวะที่มักพบความผิดปกติได้หลายรูปแบบ และนี่คือ 5 โรคตาที่ผู้สูงวัยไม่ควรมองข้าม เพราะโรคตาบางโรค…หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็อาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้

โรคต้อกระจก

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ดวงตาที่ถูกใช้งานมานานหลายสิบปีย่อมเสื่อมลง อย่างเลนส์ตาธรรมชาติที่ทำหน้าที่รับแสงมานานก็จะเกิดสีขุ่นขึ้นจนกลายเป็นสีเหลือง สีชา หรือกลายเป็นสีขาวขุ่นๆ ซึ่งนั่นคือต้นเรื่องของโรคต้อกระจก ที่ผู้สูงวัยในอายุ 50 ปีขึ้นไปควรระวัง รวมไปถึงผู้ที่ยังอายุไม่มากแต่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นตาต้อกระจกก็จะมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้น
ลักษณะอาการ : เพราะเลนส์ตามีความขุ่นมัวมากขึ้น ทำให้การมองเห็นภาพมีลักษณะคล้ายเป็นหมอก หรือมีควันขาวๆ บัง สายตา การโฟกัสไม่ดีเหมือนเดิม ในผู้ป่วยต้อกระจกบางชนิดอาจมีอาการแพ้แสง และหากต้อกระจกเข้มมากจนสุก ก็จะบังลูกตาจนสูญเสียการมองเห็นได้

โรคต้อหิน

แม้จะเป็นโรคตาที่พบได้น้อยกว่าต้อกระจก แต่ก็นับว่าเป็นอีกภัยเงียบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้ โรคต้อหินเกิดจากความดันในลูกตาสูงขึ้นจนมีการทำลายประสาทตา อาจเกิดในผู้ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นต้อหิน หรือในผู้ที่สายตาสั้นมากๆ ป่วยเป็นเบาหวาน หรือเคยได้รับอุบัติเหตุทางตามาก่อน
ลักษณะอาการ : มักไม่มีอาการในช่วงแรก แต่เมื่อเริ่มสูญเสียลานสายตา การมองเห็นจะค่อยๆ จำกัดวงแคบลง จากด้านข้างเข้ามาตรงกลางเรื่อยๆ และสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรในที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ยังมีต้อหินบางประเภทที่มีอาการปวดมาก เห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟ หรือมีอาการตาแดง

โรคต้อลม

ต้อลมเป็นอีกหนึ่งโรคตาที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของเยื่อบุตาขาว ตัวต้อจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อขนาดเล็ก นูน สีขาวหรือเหลืองตรงบริเวณเยื่อบุตาขาว มักพบบริเวณหัวตามากกว่าหางตา ซึ่งหากไม่ได้รับการป้องกันก็อาจจะลุกลามกลายเป็นแผ่นเนื้อบดบังบริเวณกระจกตาดำ หรือที่เรียกว่า “ต้อเนื้อ” 
ลักษณะอาการ : ในช่วงแรกเริ่มมักไม่มีอาการ แต่เมื่อต้อลมมีการอักเสบมากขึ้นจะทำให้มีอาการเคืองตา คันตา สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาหยอดตา ร่วมกับการป้องกันไม่ให้โดนแดดโดนลมด้วยการสวมแว่นกันแดด ซึ่งถ้าไม่ได้รับการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจจะลุกลามกลายเป็นแผ่นเนื้อบดบังบริเวณกระจกตาดำ หรือที่เรียกว่า “ต้อเนื้อ” 

โรคจอประสาทตาเสื่อม

เป็นภาวะที่จุดรับภาพที่อยู่ตรงส่วนกลางของจอตาเกิดการเสื่อมขึ้น ทำให้การมองเห็นส่วนกลางของภาพมัวลง แต่บริเวณรอบข้างยังสามารถมองเห็นได้เป็นปกติ อาจเกิดจากการเสื่อมไปตามช่วงอายุที่มากขึ้น แสงยูวี การสูบบุหรี่ หรือมีระดับความดันโลหิตสูง
ลักษณะอาการ : ในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดง แต่เมื่อจอตาเริ่มเสื่อมมากยิ่งขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ และสูญเสียการมองเห็นตรงบริเวณกลางภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการปวดร่วมด้วย

ตาแห้ง

เมื่ออายุมากขึ้น อาจมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งผลให้เกิด “ภาวะตาแห้ง” ได้ ไม่ว่าจะเป็น ต่อมไขมันเปลือกตาที่อุดตันได้ง่ายขึ้น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป หรือการมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคไทรอยด์ โรคข้ออักเสบ หรือการใช้ยาบางชนิด ซึ่งส่งผลให้น้ำหล่อเลี้ยงตาที่ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาไม่เพียงพอ เกิดการระคายเคืองในตาและแสบตา หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เปลือกตาดึงรั้งขนตาให้ลงมาทิ่มตา เปลือกตาอักเสบ และกระจกตาเป็นแผลได้
ลักษณะอาการ : รู้สึกไม่สบายตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา เคืองตาหรือมีน้ำตาไหล ซึ่งน้ำตาที่ไหลเป็นเพียงเพราะการถูกกระตุ้นจากภาวะตาแห้งให้สร้างน้ำตาขึ้นมาเพื่อลดการระคายเคือง แต่ไม่ได้ส่งผลให้ดวงตาเกิดความชุ่มชื้นอย่างที่เราเข้าใจกัน หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เปลือกตาดึงรั้งขนตาให้ลงมาทิ่มตา เปลือกตาอักเสบ และกระจกตาเป็นแผลได้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*
*