Every day

7:00 - 18:00

Call us

0970405069 , 0956416356

“รากฟันเทียม”

Highlights:

  • รากฟันเทียมเป็นวิวัฒนาการใหม่ของการทดแทนฟันที่สูญเสียไป เนื่องจากโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่น
  • การใส่ฟันปลอมแบบสะพานฟันต้องตัดทำลายเนื้อฟันซี่ข้างเคียงเพื่อเป็นที่ช่วยยึดและรับน้ำหนักฟันปลอม แต่รากฟันเทียมไม่กระทบกับฟันซี่ข้างเคียง
  • หลังการใส่รากฟันเทียม การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก สามารถดูแลรักษาเช่นเดียวกับฟันธรรมชาติ โดยทำความสะอาดสม่ำเสมอด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน หรือตามทันตแพทย์นัดหมาย

รากฟันเทียม คือ วิวัฒนาการใหม่ของการทดแทนฟันที่สูญเสียไป เนื่องจากโรคฟันผุ โรคปริทันต์อักเสบ หรือปัญหาอื่นๆ เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่นถาวรประกอบด้าวยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือ รากฟันเทียม และครอบฟันหรือฟันปลอมที่ยึดบนส่วนรากเทียม โดยรากฟันเทียมสามารถทดแทนฟันได้ใกล้เคืยงฟันธรรมชาติมากที่สุด เมื่อเทียบกับฟันปลอมชนิดอื่นๆ ทั้งในด้านของการใช้งาน และความสวยงาม

การทำรากฟันเทียมเหมาะกับใคร

  • ผู้ที่สูญเสียฟันแท้จากอุบัติเหตุ
  • ผู้ที่มีฟันแตก หัก ซึ่งควรได้รับการถอนฟันจากทันตแพทย์
  • เหงือกและกระดูกบริเวณที่จะทำการปลูกรากฟันเทียมมีปริมาณเพียงพอ ไม่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลให้การปลูกรากฟันเทียมล้มเหลวได้
  • ผู้ที่ทำฟันปลอมแบบถอดได้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
  • ผู้ที่ต้องการใส่ฟันเพียงซี่เดียว โดยฟันข้างเคียงยังอยู่ในสภาพดี ไม่ต้องการกรอฟันข้างเคียง
  • ผู้ที่ใส่ฟันปลอมทั้งปากแต่ประสบกับปัญหากระดูกขากรรไกรยุบตัวลงมาก ทำให้ฟันปลอมหลุดได้ง่าย ซึ่งการฝังรากฟันเทียมจะช่วยยึดฟันปลอมให้แน่นขึ้น

ใครที่ไม่เเนะนำให้รักษาด้วยการทำรากฟันเทียม

  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ควรทำหลังคลอดเสร็จเรียบร้อยเเล้ว
  • ผู้มีปัญหาการสบฟันไม่เสถียร ไม่สามารถควบคุมทิศทางของแรงเคี้ยวได้
  • คนไข้ที่มีโรคประจำตัวแต่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งที่ต้องรับการรักษาด้วยการฉายรังสีบริเวณใบหน้าเเละช่องปาก โรคปริทันต์อักเสบรุนเเรง โรคลูคิเมีย โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ป่วยที่ได้รับยาป้องกันการละลายของกระดูก กลุ่ม Bisphosphonate
  • คนไข้ที่มีอาการอื่นๆ ที่การรักษาอาจจะไม่ได้ผลดี เช่น ผู้ป่วยที่ต้องรับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ป่วยที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนเเรง

ข้อดีของการทำรากฟันเทียม

  • มีความใกล้เคียงฟันธรรมชาติ ทั้งรูปร่างและสีของฟัน
  • รับประทานอาหารได้ใกล้เคียงปกติ
  • ดูแลทำความสะอาดง่าย คล้ายการดูแลฟันธรรมชาติ
  • ส่งเสริมบุคลิกภาพและมีความมั่นใจมากขึ้น

ประเภทของรากฟันเทียม รากฟันเทียมแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

  • การฝังรากเทียมแบบธรรมดา (Conventional Implant) การฝังรากเทียมแบบธรรมดา ใช้ได้ในผู้ที่ทำรากฟันซี่เดียวเเละหลายซี่ ในการฟื้นฟูรากฟันแบบถาวรนี้ มีขั้นตอนการรักษา 2 ช่วง คือ เมื่อทันตแพทย์ฝังรากเทียมเเล้วต้องรอให้กระดูกยึดกับรากเทียมก่อน ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจึงจะติดฟันปลอมเข้ากับรากเทียมได้
  • การฝังรากเทียมแบบทันที (Immediate Implant) การฝังรากเทียมแบบทันที ใช้ระยะเวลาในการปลูกถ่ายเพียงแค่หนึ่งวัน เป็นการใส่รากฟันเทียมในเวลาเดียวกันหลังจากถอนฟัน ข้อดีของการปลูกถ่ายแบบทันที คือลดขั้นตอนและระยะเวลาในการรักษาลง ทำให้การละลายของกระดูก และโอกาสการเกิดเหงือกร่นลดลงด้วย เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีสภาพกระดูกขากรรไกรที่สมบูรณ์ดี ตำแหน่งฟันที่เหมาะสำหรับวิธีการนี้คือ ฟันหน้า หรือฟันกรามน้อย ต้องไม่มีพยาธิสภาพที่ปลายรากฟันที่จะถอน และจำเป็นต้องมีปริมาณกระดูกเพียงพอให้รากฟันเทียมยึดด้วย
  • การเชื่อมต่อส่วนของฟันปลอม (Immediate Loaded Implant) การเชื่อมต่อส่วนของฟันปลอม เช่น การทำครอบฟันแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร หลังจากฝังรากเทียมที่บริเวณกระดูกขากรรไกรเเล้ว อุปกรณ์ฟันปลอมแบบใส่ได้ทันทีจะเหมาะกับคนที่มีสภาพกระดูกขากรรไกรดี และการสบฟันที่ไม่มีผลต่อการยึดของรากฟันเทียมภายหลังการผ่าตัด

ขั้นตอนการรักษา รากฟันเทียม ทำอย่างไร?

  • ขั้นตอนแรก ทันตแพทย์จะตรวจสภาวะภายในช่องปาก เอกซเรย์ และทำแบบจำลองฟัน เพื่อใช้ในการวินิจฉัยและประเมินสภาพเนื้อเยื่อและกระดูกของผู้ป่วย
  • ขั้นตอนที่สอง คือการฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกรโดยใช้ยาเฉพาะที่ และเกิดบาดแผลภายหลังการทำคล้ายคลึงกับการถอนฟัน จากนั้นเป็นช่วงที่ต้องรอให้รากฟันเทียบยึดติดกับกระดูกขากรรไกร ซึ่งในขากรรไกรล่างใข้เวลาประมาณ 3 – 4 เดือน และสำหรับขากรรไกรบน ใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน
  • ขั้นตอนสุดท้าย คือการใส่ขากรรไกรครอบฟันบนรากฟันเทียม ภายหลังการประเมินแล้วว่ากระดูกได้ยึดกับรากเทียม แข็งแรงเพียงพอแล้ว

การทำรากฟันเทียมกับการใส่ฟันปลอม อย่างไหนดีกว่ากัน?

รากฟันเทียมเป็นทางเลือกใหม่ที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น

  • ด้านความสวยงามและบุคลิกภาพ จะช่วยบูรณะ โครงสร้างของใบหน้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ยิ้มด้วยความมั่นใจ เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี
  • ด้านการรับประทานและการย่อยอาหาร จะช่วยให้การรับประทานอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้อาหารสามารถย่อยได้ดีขึ้น
  • ด้านการพูด การพูดจาจะชัดถ้อยชัดคำ และเป็นธรรมชาติกว่าฟันปลอมชนิดถอดได้
  • ด้านการสูญเสียเนื้อฟันซี่ที่ดี การใส่ฟันปลอมแบบสะพานฟันต้องตัดทำลายเนื้อฟันซี่ข้างเคียงเพื่อเป็นที่ช่วยยึดและรับน้ำหนักฟันปลอม แต่รากฟันเทียมไม่กระทบกับฟันซี่ข้างเคียง

โดยการดูแลรักษาภายหลังการใส่รากฟันเทียมไม่ยุ่งยาก สามารถดูแลรักษาได้เช่นเดียวกับฟันธรรมชาติ โดยทำความสะอาดสม่ำเสมอด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันตามที่ทันตแพทย์กำหนด

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าว

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*
*