แพ้อาหาร อันตรายแค่ไหน
ภาวะแพ้อาหารคืออะไร
ภาวะแพ้อาหาร คือ ภาวะที่ร่างกายมีภูมิไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอาหาร คำว่าไวเกินคือคนปกติกินอาหารไม่มีอาการ แต่เรากินแล้วเป็น อาการนี้มีตั้งแต่อาการทางผิวหนัง บางคนอาจจะเป็นลมพิษ คือผื่นนูนแดงคัน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งถึงสองชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร หรือว่าเป็นผื่นแพ้ผิวหนังที่เป็นแห้งๆ คันๆ ตามข้อพับ อาการพวกนี้อาจจะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารไปหลายสัปดาห์แล้วก็ได้
นอกจากนี้ก็เป็นอาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ท้องเสียเรื้อรัง หรือบางคนก็ถ่ายเป็นเลือด รวมไปถึงอาจมีอาการทางเดินหายใจอย่างอื่น เช่น มีอาการเหนื่อยแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกหรือมีอาการในทุกๆระบบของร่างกาย ทั้งผิวหนัง ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจก็เป็นได้ ซึ่งพวกนี้ก็จะเป็นซ้ำทุกครั้งหลังจากได้รับอาหารชนิดเดิมๆ
สาเหตุและการรักษาของภาวะแพ้อาหาร
สาเหตุการแพ้อาหารเกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง ปัจจัยหลักๆคือเรื่องพันธุกรรม ส่วนใหญ่ก็อาจมีประวัติเรื่องโรคภูมิแพ้ในครอบครัวโดยไม่เกี่ยวกับการแพ้อาหาร หรืออาจจะมีประวัติแพ้อาหารในครอบครัวได้ อีกปัจจัยคือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เนื่องจากปัจจุบันคนแพ้อาหารเยอะเพราะว่าลักษณะพฤติกรรมการรับประทาน เช่น การรับประทานอะไรที่มากเกินไป
ทำให้บางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าการแพ้อาหารเนี่ยต้องมีอาการหลังจากทานครั้งแรก ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด หลายคนมีพฤติกรรมที่ทานอาหารชนิดนั้นซ้ำๆแล้วทานมากๆจากไม่แพ้ก็เปลี่ยนเป็นแพ้ได้ เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารทุกอย่าง ต้องอยู่ในจุดที่สมดุล ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป
เมื่อเกิดอาการแพ้แล้วทำยังไง
การดูแลตัวเองเบื้องต้นคือภูมิแพ้อาหารมีสองประเภทคือ ชนิดเฉียบพลันกับชนิดเรื้อรัง
ภูมิแพ้ชนิดเฉียบพลัน
ถ้ามีอาการเกิดขึ้นรวดเร็วเฉียบพลันที่เรียกว่าภูมิแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) พวกนี้จะมีลักษณะเด่น คือมีอาการหลังจากรับประทานอาหารชนิดนั้นภายในเวลาไม่กี่นาทีหรือเป็นชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอาการผื่นลมพิษร่วมกับอาการระบบอื่น เช่นแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกคลื่นไส้ อาเจียน พวกนี้
ต้องดูแลตัวเองฉุกเฉินเลยเพราะว่าถ้าเกิดเราไม่ช่วยตอนนั้นคนไข้อาจจะเสียชีวิตได้โดยมีการดูแลตัวเองเบื้องต้น คือการปักยาช่วยชีวิต (Epinephrine Adrenaline) ซึ่งพวกนี้จะมีเป็นปากกาช่วยชีวิตอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีภาวะนี้ก็มาปรึกษาแพทย์ได้ แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุแล้วก็จะให้ปากกา EpiPen ที่สามารถฉีดช่วยชีวิตได้
ภูมิแพ้ชนิดเรื้อรัง
สิ่งสำคัญคือต้องสังเกต ถ้าสงสัยหรือไม่มั่นใจอะไรที่เป็นเรื้อรังแล้วมีอาการเป็นๆหายๆ เราอาจจะมาตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะมีวิธีตรวจทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังหรือเจาะเลือดเพราะหลักสำคัญของการแพ้อาหารคือต้องทราบสาเหตุ ถ้าทราบแล้ว เราจะหลีกเลี่ยงอย่างเดียว เพราะว่าอาหารหลายชนิดพอหลีกเลี่ยงไปสักพัก ร่างกายเราจะลืมและจะทำให้เราสามารถที่จะกลับมารับประทานใหม่ได้ค่ะ
อาหารบางชนิดตอนเด็กทานแล้วไม่แพ้ โตขึ้นพอมาทานแล้วกลับเกิดอาการแพ้ สาเหตุมาจากอะไร
เรื่องนี้เกี่ยวกับทางพันธุกรรมหรือว่ามียีนที่ทำให้ร่างกายเกิดการแพ้อาหารชนิดนั้นได้ เพราะว่าลักษณะการแพ้อาหารบางทีเราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าเราจะเป็นคนที่เป็นภูมิแพ้หรือไม่แพ้อาหาร
หลักสำคัญคือ อาหารชนิดไหนที่เรากินมากเกินไป ชอบมาก รับประทานเข้าไปเยอะ เช่น บางคนชอบกล้วยมาก ทานกล้วยทุกวัน อยู่ดีๆก็เกิดอาการแพ้กล้วยขึ้นมาได้ กล่าวคืออะไรที่เสียสมดุลมากเกินไปก็ทำให้แพ้ได้ง่าย
ถ้าแพ้อาหารชนิดไหน กินยาแก้แพ้ไว้ก่อนจะทานอาหารนั้นได้ไหม
ในกรณนี้เป็นภาวะที่เสี่ยงมากเพราะว่าการที่เกิดการแพ้อาหาร อาการที่มักจะเกิดขึ้นคืออาการทางผิวหนัง หลังจากนั้นอาจมีอาการระบบอื่นจนเสียชีวิตก็ได้ซึ่งจะน่ากลัวมาก ถ้าเราให้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้เนี่ยมันแค่บดบังอาการทางผิวหนังอย่างเดียวแต่ไม่ช่วยลดอาการอย่างอื่นเพราะฉะนั้นจะมีข้อเสียซึ่ง
- ทำให้เราไม่สังเกตอาการระบบอื่นเพราะว่าเนื่องจากพอไม่มีผื่นคัน เราก็นึกว่าไม่เป็นไรแล้วกินต่อ ทีนี้อาการระบบอื่นๆ ก็จะมาแล้วถ้าเราสังเกตไม่ทัน ดูแลไม่ทันก็อาจจะเสียชีวิตได้
- การให้ยาต้านฮีสตามีนไม่ใช่การรักษาแต่มันแค่บดบังอาการ แล้วถ้าเรารับประทานอาหารชนิดนั้นไปเรื่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ อาจจะทำให้เปลี่ยนจากอาการแพ้น้อยเป็นภูมิแพ้ชนิดรุนแรงได้
มีโอกาสที่เราจะหายมั้ยที่เราจะหายขาดจากการแพ้อาหาร
การหายจากการแพ้อาหารขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร อย่างเช่น ถ้าเป็น ไข่ แป้งสาลี นม เลี่ยงไปสัก 3 – 5 ปี อาการจะค่อยๆดีขึ้น แล้วมีวิธีสังเกตโดยแพทย์แนะนำว่าให้คนไข้มาตรวจเลือดหรือทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังอย่างน้อยทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อดูว่าระดับปริมาณที่เราแพ้มันน้อยลงหรือยัง ถ้าน้อยลงแพทย์จะแนะนำให้คนไข้ กลับไปรับประทานได้โดยการรับประทาน จะมีการทดสอบในโรงพยาบาลที่เรียกว่าการทำ Oral Challenge ซึ่งคือวิธีการที่ให้คนไข้ลองรับประทานต่อหน้าแพทย์ทีละน้อยๆจนมั่นใจว่าทานได้เต็มที่แล้วไม่มีอาการ สำหรับอาหารบางประเภทเช่น ถั่ว กรณีนี้อาจจะหายยาก ต้องใช้เวลานานนิดหนึ่ง บางคนถ้าแพ้เยอะๆ อาจจะเป็นตลอดชีวิต ส่วนอาหารทะเลก็เหมือนกัน อัตราการหายจะน้อยกว่าพวกไข่นมและแป้งสาลี
สิ่งที่อยากฝากถึงคนที่มีอาการแพ้ให้ดูแลตัวเอง
สิ่งสำคัญคือต้องสังเกต เพราะภาวะแพ้อาหารเป็นภาวะที่มีอาการหลากหลายรูปแบบแต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ อาจจะต้องหมั่นสังเกตโดยเฉพาะในเด็กเล็ก คุณแม่เริ่มให้อาหารอาจจะต้องสังเกตหลังให้อาหารทุกครั้ง ลูกมีอาการอะไรที่เกิดขึ้นซ้ำๆหรือเปล่า ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องสงสัย ควรที่จะมาทดสอบ เราจะได้ไม่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารโดยไม่จำเป็น
ปัจจุบันนี้ปัญหาที่เจอคือภาวะแพ้อาหาร อุบัติการณ์ไม่เยอะแต่หลายคนมักจะงดอาหารโดยไม่ได้มาทดสอบ บางทีงดไปหลายอย่างมากทำให้เกิดการขาดสารอาหารได้ โดยจริงๆอาจจะไม่ได้แพ้อาหารชนิดนั้นก็ได้ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าว