รู้ไว้...วัคซีนที่ผู้สูงอายุควรได้รับ
สิ่งที่มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มีเพียงตัวเลข แต่รวมไปถึงสุขภาพที่มีความเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะกับระบบภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ ที่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถวัดได้ด้วยสายตาเปล่าๆ เนื่องจากภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากอันตรายจากเชื้อโรคต่างๆ
ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีระบบภูมิคุ้มกันกลับมาสูงขึ้นหรือห่างไกลจากโรคต่างๆ ได้ คือ “วัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ” เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และลดความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
5 วัคซีนที่ผู้สูงอายุควรได้รับ
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ : เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายเมื่อได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่
ผู้สูงอายุทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด Flu High-Dose สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้หวัดใหญ่มากกว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบทั่วไป
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก : เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นต่อการติดเชื้อเหล่านี้ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนเหล่านี้จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหล่านี้ได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนถึง 2 เท่า ซึ่งผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานเหล่านี้ทุกๆ 10 ปี
- วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ : มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสได้ง่ายกว่าคนอายุน้อยๆ ผู้สูงอายุที่ได้ติดเชื้ออาจทำให้มีอาการรุนแรง และเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อีกทั้งวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบมีหลายชนิดในการฉีด ดังนั้นจึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ในการเลือกชนิดของวัคซีนปอดอักเสบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด : โรคงูสวัดเป็นโรคที่มีไวรัสตัวเดียวกับโรคอีสุกอีใส เมื่อหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว ไวรัสตัวนี้จะหลบอยู่ในร่างกายของเรา หากร่างกายอ่อนแอและภูมิคุ้มกันลดลงเมื่อไหร่ โรคนี้ก็จะปรากฏอาการให้เห็น ซึ่งเป็นอาการปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาท หากผู้สูงอายุได้รับวัคซีนชนิดนี้ก๋จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและความรุนแรงต่อโรคได้ โดยการได้รับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้วสำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคนี้
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี : เพื่อป้องกันโรคตับอักเสบบีและอันตรายต่างๆ ที่ตามมาหลังจากการติดเชื้อตับอักเสบบี โดยเฉพาะมะเร็งตับและโรคตับแข็ง ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกายที่อ่อนแอลงตามวัย อาจทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อและเกิดโรคต่างๆ ได้ ซึ่งการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี จะฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 – 2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
ผู้สูงอายุเตรียมตัวง่ายๆ ก่อนมาฉีดวัคซีน
- หากมีการแพ้ยา แพ้อาหาร หรือมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาลให้ทราบก่อนทุกครั้ง
- หากมีอาการป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ควรเลี่ยงการเข้ารับวัคซีน
- หากผู้ป่วยกำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษาบางอย่าง ควรเลี่ยงการเข้ารับวัคซีน
- ควรจดบันทึกประวัติการรับวัคซีนทุกครั้ง
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เราก็ไม่ควรชะล่าใจต่อการรับวัคซีนชนิดต่างๆ ของตัวเราเองและคนที่เรารัก เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเราจะป่วยเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เราทำได้นั่นคือการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาว หากได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้